อ่านค่าเป็น เขียนโพสเล่นๆ ก็ได้ตังค์

อ่านค่าเป็น เขียนโพสเล่นๆ ก็ได้ตังค์

ธุรกิจใหม่หลายธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นเข้ามาทำตลาดบนโลกออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น Google, Facebook, Youtube, Tiktok หรือช่องทางอื่นๆ ต้องเคยลงโปรโมทโปรดักของตนเองบ้างแหละ แต่บางครั้งเห็นยอดคนเข้าถึงเยอะ จนคิดว่าโพสนั้นทำงานได้ จนลืมแนวคิดทางทฤษฎีไปเลยว่ามีตัวเลขสำคัญอยู่สองสามตัวที่ควรนำมาคิดคำนวณไปด้วย

ลงโฆษณาไปแล้วเคยเช็คกันบ้างไหม ตัวเลขสองสามตัวที่สามารถบอกได้ว่าโพสที่เราเขียน มีประสิทธิภาพ แค่ไหน?

ตัวอย่าง
A = งบ (cost) 100 บาท, เข้าถึง (impression) 2,500 คน, คลิกลิ้งค์หรือส่งข้อความ (click) 90 คน ขายได้ 5 คน
B = งบ (cost) 100 บาท, เข้าถึง (impression) 500 คน, คลิกลิ้งค์หรือส่งข้อความ (click) 4 คน ขายได้ 2 คน

CTR (ค่ายิ่งมากยิ่งดี)

คือ จำนวนคนคลิ๊กลิ้งหรือส่งข้อความจากโฆษณาของเราบ่อยแค่ไหน ค่ายิ่งมากยิ่งดี แต่ถ้าค่าน้อยกว่า 1% แสดงว่าโฆษณานั้นใช้ไม่ได้
ตัวอย่าง A = 90/2500×100 = 3.6% ค่าอยู่ในเกณฑ์พอใช้
ตัวอย่าง B = 4/500×100 = 0.8% ค่าน้อยกว่า 1 แสดงว่าโฆษณานั้นใช้ไม่ได้ คนดูเยอะ แต่คลิกน้อยมาก

CPM (ค่ายิ่งน้อยยิ่งดี)

คือ ราคาต้นทุนต่อการแสดงผล 1,000 ครั้ง แน่นอนครับค่านี้ ยิ่งน้อยยิ่งดี แล้วแค่เท่าไหร่ละที่น้อยพอ โดยภาพรวมของตลาด Facebook นั้น ค่าควรต่ำกว่า 150 แต่ถ้าต่ำกว่า 100 ก็ดีว่าดีมาก ต่ำกว่า 50 นี่ยอดเยี่ยมเลย
ตัวอย่าง A = 100/2500×1000 = 40 แสดงว่าโฆษณานี้ดีเยี่ยมใช้ต้นทุนต่ำ แต่แสดงผลได้เยอะ อาจจะเนื่องจากมีคนแชร์ด้วย
ตัวอย่าง B = 100/500×1000 = 200 แสดงว่าโฆษณานี้มีคนเห็นน้อย ใช้ต้นทุนไปตั้งเยอะ แต่มีคนเห็นนิดเดียว
* ต้องพิจารณาด้วยว่า คนเห็นเยอะ แต่ถูกกลุ่มเป้าหมายรึเปล่า ถ้าเห็นเยอะแต่ไม่ซื้อก็ไม่มีความหมาย แต่ถ้าถูกกลุ่มเป้าหมาย แม้เห็นน้อยก็มีโอกาสซื้อเยอะ

CPC (ยิ่งน้อยยิ่งดี)

คือ ต้นทุนต่อการคลิ๊กลิ้ง หรือข้อความ แน่นอนครับ ยิ่งน้อยยิ่งดี แต่น้อยเท่าไหร่ละ อันนี้ตอบไม่ได้ครับขึ้นอยู่กับโปรดักและกำไรที่ได้มา ให้พิจารณากันเอาเอง
ตัวอย่าง A = 100/90 = 1.11 ว้าววว คลิก 90 ครั้ง เฉลี่ยคลิกละบาทกว่าๆเอง แต่ขายได้ 5 คนเอง ถ้ากำไรสินค้าต่อชื้นน้อยก็คงไม่ค่อยคุ้ม
ตัวอย่าง B = 100/4 = 25 โหห แพงจัง เฉลี่ยคลิกละ 25 บาทเลย แต่ขายได้ตั้ง 2 คิด คิดเป็น 50% ของคนคลิกทั้งหมดนะ ถ้า margin กำไรเยอะ ก็คุ้ม

อย่าโทษลูกค้าเลยว่าเขาไม่อยากได้สินค้า เราต้องกลับมาถามตัวเองว่า อะไรกันนะที่พลาดไป?

มีอยู่ไม่กี่ปัจจัยหรอกครับ ที่สามารถโน้มน้าวใจให้ลูกค้าซื้อของได้

– กลุ่มเป้าหมายผิด

ลองย้อนดูกลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้ด้วยนะคับว่าถูกจริงรึเปล่า กว้างไป หรือแคบไปคนอาจจะไม่เห็น

– เนื้อหาโพส, หัวข้อ

เนื้อหาที่เขียนเยอะมาก เยอะจนไม่น่าสนใจ ไม่ชูจุดเด่น ไม่ดึงดูด หรือเนื้อหาดีแล้ว แต่กลุ่มเป้าหมายไม่ตรงก็ไม่ได้ผลเช่นกัน

– คีย์เวิร์ด

กรณีทำการตลาดบน Google ควรคิดคีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจงไม่ใช่ Mass Keyword อย่างเดียว เช่น รับทำเว็บไซต์ ก็ควรเปลี่ยนเป็น ทำเว็บไซต์ขายของพร้อมโฆษณา

** ทั้งนี้ทั้งนั้นข้อมูลเบื้องต้นเป็นแค่ทฤษฎีคร่าวๆ แท้จริงแล้วยังมีข้อมูลที่ต้องศึกษาอีกเยอะมาก ตัวเลขอาจจะต้องปรับไปตามกาลเวลา และยังมีตัวแปรอื่นๆอีกเยอะแยะมากมาย ฉะนั้นอย่าลืมหมั่นอัพเดทความรู้ให้ทันคู่แข่งกันด้วยนะ