สำหรับใครที่ค้นหาการด้านการตลาดออนไลน์มาสักพัก คงจะทราบว่าการลงโฆษณาออนไลน์นั้นเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยที่ธุรกิจที้งหลายไม่ควรมองข้าม เพราะด้วยการลงโฆษณาออนไลน์ จะสามารถช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้าได้อย่างตรงกลุ่ม และยังเพิ่มสามารถโอกาสในการปิดการขายที่มากขึ้นอีกด้วย
แต่การเริ่มต้นลงโฆษณาออนไลน์ ก็จะเริ่มมีเรื่องค่าใช้จ่ายที่หลายคนก็เริ่มที่จะลังเลว่าจะคุ้มรึเปล่า จนอาจนำไปสู่การตัดสินใจไม่ทำ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมาก
แน่น่อนครับแล้วเราจะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่า ที่เราเสียเงินและเวลาไปกับการโฆษณาออนไลน์ จะไม่สูญเปล่า ?
ในการลงโฆษณาออนไลน์ คงไม่สามารถบอกได้อย่างมั่นใจว่าจะทำให้ธุรกิจของคุณดีขึ้นในทันที เพราะมันต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ และ การเริ่มต้นเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจของคุณเดินไปข้างหน้า ก็จะเห็นภาพของผลลัพธ์ได้มากขึ้น
1. มาเริ่มกันที่การลงโฆษณาออนไลน์นั้นมีอะไรบ้าง ?
ในหมู่พวกเขามีหลายช่องทางที่เราสามารถเลือกได้จากการโฆษณาออนไลน์ ดังนั้น คุณควรเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจว่าการโฆษณาออนไลน์เกี่ยวกับอะไร เมื่อพูดถึงการโฆษณาออนไลน์ ก็มีโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook Ads และ Google Ads ซึ่งแต่ละช่องทางก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกัน การรวมผู้ใช้ที่แตกต่างกันในแต่ละช่องวันนี้เราจะเข้าใจกันก่อนว่าโฆษณาออนไลน์คืออะไร ผมขอแบ่งตามช่องทางโฆษณาออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ดังนี้
1.1 “Google Ads” การลงโฆษณาออนไลน์ผ่าน Google
Google Ads ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งก็ตามที่เรารู้กันดีว่าแพลตฟอร์ม Google มีจำนวนคนที่เข้าใช้มากขนาดไหน Google Ads หลัก ๆ แล้วสำหรับการลงโฆษณาออนไลน์บน Google Ads จะมีรูปแบบที่เป็นที่นิยมอยู่ทั้งหมด 2 รูปแบบด้วยกัน ซึ่งประกอบไปด้วย
Google Display Network (GDN) คือ การลงโฆษณาออนไลน์บนรูปแบบ Banner Ads ที่ขึ้นตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งก็มีรูปแบบที่หลากหลาย และสามารถเลือกตำแหน่งที่ต้องการจะแสดงได้
Search Engine Marketing (SEM) คือ การลงโฆษณาออนไลน์บนรูปแบบของเว็บไซต์ที่จะขึ้นแนะนำในอันดับแรก ๆ ของการค้นหาบน Google ซึ่ง SEM จะมาในรูปแบบตามปกติของการค้นหา Google ที่แฝงไปด้วยโฆษณาของเรา
1.2 “Facebook Ads” การลงโฆษณาออนไลน์บน Facebook
การลงโฆษณาออนไลน์ผ่าน Facebook Ads ไม่ต้องสงสัยกับการลงโฆษณาออนไลน์บน Facebook ที่เราน่าจะคุ้นเคยกันอย่างดี ซึ่งการโฆษณาบน Social Media ที่ได้รับความนิยมเช่นนี้ จะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงเป้าหมายได้มากขึ้นครับ ซึ่งรูปแบบของการลงโฆษณาออนไลน์ผ่าน Facebook Ads ก็มีหลากหลาย เช่น รูปภาพ วิดีโอ หรือ การทำโฆษณาออนไลน์รูปแบบที่หลากหลาย
1.3 การลงโฆษณาออนไลน์บนช่องทางอื่น ๆ
การลงโฆษณาออนไลน์นั้นไม่ได้มีแค่ช่องทาง Facebook Ads กับ Google Ads เท่านั้นแต่ยังมีช่องทางอื่นอยู่อีก เช่น
ทำ Email Marketing ช่องทาง E-mail ที่เน้นการส่งอีเมลไปหาลูกค้าเพื่อสื่อโฆษณา
ทำ YouTube Ads ช่องทาง YouTube เล่าเรื่องได้มากกว่าผ่านรูปแบบการโฆษณาระหว่างดูวิดีโอภาพเคลื่นไหว
รู้โฆษณาออนไลน์มีรูปแบบอะไรบ้างไปแล้ว เรายังต้องรู้ว่าถึงว่าโฆษณาออนไลน์รูปแบบนั้นๆเหมาะสมกับธุรกิจเราหรือไม่ แล้วเราค่อยเลือกใช้ช่องทางที่เหมาะสมในการลงโฆษณาออนไลน์ให้ได้ผลมากที่สุด
2. ความสำคัญของ Keyword ( คีย์เวิร์ด )
การโฆษณาออนไลน์ อีกองค์ประกอบสำคัญอย่างมากที่ทุกคนต้องเข้าใจนั่นคือ “คีย์เวิร์ด” ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากในการลงโฆษณาออนไลน์โดยเฉพาะใน Search Marketing ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการเข้าถึงตัวเป้าหมาย
“คีย์เวิร์ด” สำคัญอย่างไร ?
ในแง่ของ Search Marketing การเลือกคีย์เวิร์ดที่ตรงกับความคิดของลูกค้ามีผลอย่างมากในการที่ลูกค้าจะสามรถเข้าถึงได้ ซึ่งจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
การลงโฆษณาออนไลน์ โดยที่เลือก “คีย์เวิร์ด” ได้ตรงมากที่สุด
โฆษณาออนไลน์ใน Search Marketing เพื่อจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น และด้วยความที่โฆษณาออนไลน์ชนิดนี้จะแสดงขึ้นในหน้าการค้นหาที่ใกล้เคียงมากที่สุด ก็ยิ่งแสดงว่าลูกค้าคนนั้นกำลังต้องการสิ่งนั้นจริงๆ
การลงโฆษณาออนไลน์ โดยที่เลือก “คีย์เวิร์ด” ได้ไม่ตรงเท่าไหร่
การโฆษณาออนไลน์ของเราไม่ถูกต้องนักสำหรับลูกค้าของเรา แน่นอนว่าจะทำให้โฆษณาออนไลน์ชิ้นนั้นสูญเปล่า และอื่น ๆ สำหรับการโฆษณาออนไลน์บนช่องทางอื่นนอกเหนือจากการตลาดผ่านการค้นหา แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพน้อยกว่า แต่การเลือกรวมคีย์เวิร์ดในโฆษณาหรือบรรทัดแรกที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าจะทำให้คลิกโฆษณาออนไลน์ได้ง่ายขึ้น
ดังนั้นเราต้องเข้าใจหลักการทำงานของ “คีย์เวิร์ด” ในการลงโฆษณาออนไลน์ และ ค้นหาคีย์เวิร์ดใหม่ ๆ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น การค้นหาคีย์เวิร์ด ก็มีเครื่องมือมากมายให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น Google Trend ที่ช่วยให้เห็นว่า “คีย์เวิร์ด” ได้รับความนิยม หรือ Google Keyword Research ที่ทำให้เรารู้ว่า จำนวนของการถูกค้นหา ราคา และ การแข่งขันสูงแค่ไหน
3. มี Landing Page รองรับ
องค์ประกอบนี้มีความสำคัญมากสำหรับการโฆษณาออนไลน์ เพราะทุกๆ โฆษณาออนไลน์เมื่อเราทำให้ลูกค้าคลิกได้ จำเป็นต้องมีหน้าเว็บไซต์เพื่อรองรับ ซึ่งปกติจะเรียกว่า “หน้า Landing Page” ซึ่งก็คือการสร้าง “หน้า Landing Page” สำหรับลูกค้าที่ คลิกผ่านหลักการสำคัญของโฆษณา นั่นคือต้องมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากโฮมเพจที่เปิดโฮมเพจของเว็บไซต์
3.1 “Landing Page” มีหน้าที่รองรับลูกค้าที่มาจากการลงโฆษณาออนไลน์ ปกติมักจะคาดหวังว่าจะเข้ามาแล้ว จะเจอสิ่งที่ต้องการทันที การที่เราออกแบบ “Landing Page” ให้สิ่งที่จะสื่อในการลงโฆษณาออนไลน์ที่ลูกค้าคลิกเช้ามา จะช่วยให้ลูกค้าได้ความพอใจมากกว่า
3.2 “Landing Page” สามารถทำหน้าที่ส่งลูกค้าไปตาม สิ่งต่อไปที่ต้องการนำเสนอได้ สามารถปรับแต่งเพื่อชี้นำให้ลูกค้า ทำได้ตามที่เราต้องการ เช่น โฆษณาสินค้าอื่นๆที่ใกล้เคียง
3.3 “Landing Page” เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยในการเก็บข้อมูลลูกค้า เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์ หรือ ทำการตลาดแบบ Remarketing ต่อไปได้ การทำ “Landing Page” ให้มีความเฉพาะ จึงช่วยให้สามารถเก็บ และ แยกข้อมูลได้ง่ายกว่า “Homepage”ทั่วไป
นอกจากหลักการสร้าง “Landing Page” ที่ต้องสร้างแยกไปเพื่อรองรับลูกค้าที่เข้ามาตามการลงโฆษณาออนไลน์แต่ละตัวแล้ว การสร้าง “Landing Page” ยังมีรายละเอียดอยู่อีกมากที่คุณต้องทำความเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นหลักการใช้ “Landing Page” เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้า หรือ การเทคนิคการสร้าง “Landing Page” ให้เป็นที่นิยม
สามารถปรึกษาเราได้ คลิก
มากกว่าสิ่งอื่นใดแผนดังกล่าวจะใช้งบประมาณที่จำกัด เพราะไม่ว่าคุณจะออกแบบโฆษณาออนไลน์อย่างไร แต่สุดท้ายแล้วถ้าเราไม่มีการวางแผนด้านงบประมาณที่รัดกุม ต้นทุนก็อาจล้นมือและกลายเป็นการเสียเงินเปล่าได้สิ่งที่เราต้องทำคือให้เวลาและวางแผนให้มากที่สุด เพราะผมเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วการลงทุนในการโฆษณาออนไลน์นี้จะได้ผลแน่นอนถ้าเราวางแผนไว้