ขั้นตอนการสร้าง Brand Identity ให้คนรู้จัก

ขั้นตอนการสร้าง Brand Identity ให้คนรู้จัก

หากคุณเป็นนักธุรกิจ หรือกำลังริเริ่มทำธุรกิจบางอย่างล้วนแล้วแต่ต้องการให้ผลิตภัณฑ์ หรือแบรนด์ของตัวเองเป็นที่จดจำของลูกค้า ซึ่งการสร้าง “เอกลักษณ์ของแบรนด์” (Brand Identity) จะช่วยให้คุณสามารถวางภาพลักษณ์ของแบรนด์ และยังสะท้อนมุมมองต่อแบรนด์ระหว่างตัวคุณกับลูกค้า โดยในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าการสร้างแบรนด์มักมีการอาศัยโลกออนไลน์ช่วยในการสื่อสาร เพื่อเผยแพร่ภาพลักษณ์ให้รวดเร็ว และกว้างขวางยิ่งขึ้น

“เอกลักษณ์แบรนด์”  (Brand Identity) คืออะไร

การสร้างหรือมองวิสัยทัศน์ของธุรกิจ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจ และมองเห็นภาพของธุรกิจ นอกจากนั้นยังช่วยให้เรากำหนดมุมมองของแบรนด์เราไม่ให้เหมือนใคร และเข้าใจคู่แข่งมากขึ้น

กระบวนการเหล่านี้รวมไปถึงการออกแบบ Template อาทิ โลโก้ สีที่ใช้ และภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร

 

ทำไม “เอกลักษณ์แบรนด์” จึงสำคัญ

แบรนด์นั้นมากกว่าการสร้าง Template หรือ โลโก้ขึ้นมา การสร้างแบรนด์ต้องผนวกรวมหลายสิ่งเพื่อสร้างให้ธุรกิจเติบโตอย่างมีทิศทาง รวมถึงเกิดความน่าเชื่อถือ

การสร้างสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณวางภาพลักษณ์ และ Position ของแบรนด์ได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งค้นหาลูกค้าที่แท้จริง

 

ขั้นตอนการสร้าง “เอกลักษณ์” ให้ลูกค้าจดจำ

1. สร้างภาพลักษณ์ แบรนด์ ของคุณ

การสร้างภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ เพื่อให้แบรนด์ มีทิศทางเดียวกัน และทีมงานมีความเข้าใจที่ตรงกัน คุณควรเริ่มค้นหาข้อมูลคู่แข่งทางการตลาด เพื่อเปรียบเทียบข้อดี และข้อเสีย (SWOT Analysis) ช่วยให้ลดโอกาสสูญเสียผลประโยชน์ รวมทั้งช่วยค้นหาจุดแข็งของแบรนด์ (Value proposition) ซึ่งกระบวนเหล่านี้ต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกับมัน เพราะเป็นการนำองค์ประกอบหลายๆด้าน มาผนวกรวมกันให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างขึ้นมา

 

2. ออกแบบแบรนด์

การออกแบบแบรนด์ไม่ใช่การออกแบบแค่โลโก้ คุณควรลงลึกแม้กระทั่งสีที่ใช้ควรเป็นสีโทนเข้ม เพื่อบ่งบอกความดูดีมีระดับ หรือโทนอ่อน เพื่อให้ดูอ่อนโยน รวมทั้งรูปแบบตัวอักษร ว่ามีลักษณะตรงกับภาพลักษณ์หรือไม่ เช่น มีความดูสนุกสนาน หรือดูหรูหรา เพราะองค์ประกอบทั้งหมด จะถูกนำไปใช้สื่อสารทุกช่องทางเสมอ ไม่ว่าจะบน เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และหน้าร้านค้า

 

3. สื่อสารให้ลูกค้ารับทราบ

เมื่อเตรียมทุกอย่างเสร็จสิ้น สิ่งถัดมาคือการลงตลาดจริง ให้ผู้บริโภครับรู้ถึงการมีอยู่ของแบรนด์ โดยคุณอาจสร้างการประชาสัมพันธ์ในช่องทางออนไลน์ เช่น การโฆษณาบน Facebook และ Google การสร้างเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ชมรับรู้ถึงรายละเอียด การทำ SEO และ SEM และการลงโซเชียลมีเดียต่าง ๆ

การสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์นั้น ได้รับความนิยมในยุคปัจจุบันสูงมาก เนื่องจากสามารถช่วยกระจายข่าวสารได้อย่างแพร่หลาย และควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างสะดวก

 

4. ติดตามผล

หลังจากคุณได้สื่อสารทุกอย่างออกไปแล้ว คุณควรติดตามผลการดำเนินงานตลอดเวลา เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เหมาะสมกับผู้บริโภคของคุณ จะช่วยให้ธุรกิจเจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ