เครื่องมือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขายออนไลน์

เครื่องมือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขายออนไลน์

ปัจจุบันนั้น โลกดิจิทัลกลายเป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภคหรือลูกค้าได้มากขึ้น โลกของการตลาดทางอินเทอร์เน็ตนั้นกว้างใหญ่ หากคุณเคยใช้แค่ Facebook หรือ instagram เท่านั่นแปลว่าคุณใช้ศักยภาพทางการตลาดทางอินเทอร์เน็ตเพียงน้อยเท่านั้น ตอนนี้เราจะพาคุณให้ได้เรียนรู้เครื่องมือของการตลาด online เพื่อการส่งเสริมให้องค์กรหรือกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กมุ่งเน้นไปที่การตลาดเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลเพื่อให้ครอบคลุมและเข้าถึงลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

      1.SEO analytics (google)

      โดยพื้นฐานแล้ว คนส่วนใหญ่มักใช้การค้นหาค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่เขาสนใจ ดังนั้นขั้นตอนการทำ SEO(Search Engine Optimization) หรือการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหาคือการทำให้เว็บไซต์ธุรกิจของเราติดอันดับใน Google โดยใช้คำค้นหา คีย์เวิร์ด หรือคีย์เวิร์ดที่กำหนดผ่านองค์ประกอบต่างๆ บนเว็บไซต์ เช่น การตั้งชื่อเพจ สำหรับการเขียนบล็อก เป็นต้น เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหาที่มีประสิทธิภาพ มันจะสามารถสร้างความครอบคลุม โดยไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณา หากคุณมีเว็บไซต์ขายออนไลน์ ก็ครใช้ Google Analytics คู่กัน สิ่งที่สำคัญที่สุดนอกเหนือจากการมีเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณคือเครื่องมือรวบรวมสถิติ เครื่องมือวัด Google Analytics จะช่วยทำงานได้ดี นอกจากนี้ยังใช้งานได้ฟรีโดยไม่มีเงื่อนไขแอบแฝง สิ่งที่ Google Analytics มอบให้คุณคือการแจ้งให้คุณทราบว่าเนื้อหาใดในเว็บไซต์ของคุณแบบไหนจะได้รับการตอบรับที่ดีที่สุด เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่จะคลิกเข้าเว็บไซต์ที่อยู่ในหน้าแรกของ Google และมีโอกาสเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น และทราบถึงผู้เข้าชมมาจากเว็บไซต์หรือสื่อโซเชียลใดมากที่สุด  รวมไปถึงมันสามารถเก็บข้อมูล พฤติกรรมของลูกค้า ว่าเข้ามายังหน้าเว็บไซต์แล้วไปไหนต่อ ออกจากหน้าเว็บไซต์หรือคลิกซื้อสินค้า  

      2.Canva

      หากธุรกิจของคุณไม่มีฝ่ายกราฟิกดีไซน์ที่ไว้คอยทำรูปภาพในการโพสต์แต่ล่ะอย่างลงบน Website/Blog หรือ Social Media ต่าง ๆ แล้วล่ะก็ คุณสามารถใช้ Canva ช่วยในการออกแบบได้อย่างง่ายดาย Canva เป็นแพลตฟอร์มออกแบบกราฟิก ไม่ว่าจะเป็นชิ้นงานเพื่อใช้ลง Social Media, Presentation, งานสิ่งพิมพ์ รวมไปถึงภาพเคลื่อนไหว Canva ประกอบไปด้วยเทมเพลตให้เลือกใช้มากมาย ทำให้ออกแบบชิ้นงานคุณภาพได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเจ้าตัว Canva นี้ เป็นเครื่องมือในการจัดการรูปภาพกราฟฟิคขนาดที่เหมาะสมกับแพลตฟอร์มที่คุณจะนำไปใช้โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นขนาดของรูปบน Facebook, Instagram, Youtube หรือจะออกแบบขนาดของนามบัตร โปสเตอร์ ก็สามารถทำได้อีกด้วย ควาสามมรถเด่นๆ ของ Canva ได้แก่

  • Template คุณสามารถประหยัดเวลาในการออกแบบองค์ประกอบกราฟิกจากเทมเพลตฟรี มีดีไซน์ให้เลือกมากกว่า 60,000 แบบจากนักออกแบบมืออาชีพ
  • Text Tool ช่วยคุณบอกเล่าเรื่องราวในงานกราฟิก ใช้เครื่องมือปรับแต่งข้อความเพื่อย้ายหรือปรับขนาดข้อความโดยจับคู่รูปภาพกับข้อความ รองรับแบบอักษรของ Google
  • Photo Toolมีเครื่องมือบางอย่างในการเพิ่มรูปภาพของคุณ หรือค้นหารูปภาพฟรีบน Canva เพื่อรองรับการตกแต่งรูปภาพ อนุญาตให้รูปภาพและข้อความผสมผสานกันอย่างลงตัว
  • Teams การทำงานกับทีมสามารถสร้างการออกแบบร่วมกันได้แบบเรียลไทม์ คุณสามารถแท็กสมาชิกในทีมและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอแนะของคุณได้ทันที

      3.Facebook ads 

     การโฆษณาของ Facebook นั้น หลากหลายแบบครอบคลุมตั้งแต่ ลงโฆษณาบนเว็บไซต์ โปรโมทโพสต์ โปรโมทเพจ และเพิ่มการติดตั้งแอพพลิเคชั่น การเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มจำนวนที่มีสิทธิ์ได้รับส่วนลดและเพิ่มจำนวนการดูวิดีโอ ร้านค้าทั่วไปใช้ Facebook มักจะอาศัยการเปิดแฟนเพจเป็นร้านค้าเพื่อขายสินค้า ดังนั้นมันเกี่ยวกับโดยตรงก็คือ การโปรโมทเพจและโพสต์โปรโมชั่นนั่นเอง

  • #โปรโมทโพส Promote Post – ซึ่งก็คือการซื้อโฆษณาทำให้ผู้คนเห็นโพสต์บน Facebook มากขึ้น ซึ่งมักจะเป็นโพสต์ขายโฆษณา  การโปรโมทโพสต์แต่ละโพสต์จึงเป็นการยิงตรงเป้าให้คนที่เราต้องการให้เห็นได้เห็นข่าวที่ร้านสื่อสารอย่างแน่นอน
  • #โปรโมทเพจ Promote Page – หมายถึงการซื้อโฆษณาเพื่อทำให้ผู้คนกดถูกใจเพจเพื่อรับผู้ติดตามมากขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นและโอกาสประชาสัมพันธ์เพื่อการค้าขายในอนาคต  นี่เป็นวิธีการโฆษณาที่นักการตลาดสมัยใหม่ไม่แนะนำ เนื่องจากการเข้าถึงของผู้ติดตามเพจนั้นถูกลดการเข้าถึง
  • #คลิกเข้าเว็บไซต์ Website Click –  หมายถึง การซื้อโฆษณาให้คนคลิกโฆษณาเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์ เพื่อให้เห็นและคลิกตามเข้าไปดูหน้าแฟนเพจของร้านค้า การโฆษณาแบบนี้จะเน้นที่กลุ่มเป้าหมายการตลาดได้กว้างขวางยิ่งขึ้น เป็นวิธีโฆษณาที่นิยมใช้กันในต่างประเทศ แต่ในประเทศไทย บริษัทส่วนใหญ่ไม่ค่อยใช้เว็บไซต์เป็นสื่อการตลาดออนไลน์

      4.Website

     ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจุดเริ่มต้นของการซื้อขายของออนไลน์ทั้งหมดนั้นเริ่มมาจากเว็บไซต์ ดังนั้นเจ้าของกิจการท่านใดทำธุรกิจก็ควรมีเว็บไซต์ เพราะจะเป็นการสร้างแบรนด์เพื่อเพิ่มยอดขายบนโลกออนไลน์ การเพิ่มโอกาสทางการค้า ถือว่ามีความสำคัญต่อธุรกิจมาก ข้อดีหลักของการมีเว็บไซต์มีดังต่อไปนี้

  • ใช้เว็บไซต์เป็นเครื่องมือในการโปรโมทธุรกิจของคุณสู่สาธารณะ คุณยังสามารถใช้เว็บไซต์ของแบรนด์เชื่อมต่อผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้ลูกค้าและคนทั่วไปเข้ามาดูข้อมูลข่าวสารต่างๆ
  • การสร้างเว็บไซต์จะทำให้บริษัทของคุณอย่างน่าเชื่อถือจะเพิ่มความน่าเชื่อถือของบริษัทคุณอย่างมาก เนื่องจากจะมีข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทของคุณย้อนหลัง หรือสามารถติดต่อกับหน่วยงานของคุณได้ง่ายขึ้น
  • เข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา ลูกค้าสามารถเลือกชมหรือสั่งซื้อสินค้าได้ตลอด การมีเว็บไซต์เพื่อขายสินค้าจึงเป็นการเพิ่มช่องทางการติดต่อซื้อสินค้าให้มีมากขึ้นและยังเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าด้วย  เพื่อให้ลูกค้าเลือกรายการสินค้า สั่งซื้อและชำระเงินได้เลย 
  • คุณสามารถที่จะมีเว็บไซต์เป็นของตนเองและสามารถที่จะทำให้กลุ่มลูกค้าของคุณค้นเว็บของคุณเจอผ่าน Search Engine โดยกลุ่มคำที่เจาะจงกับธุรกิจของคุณได้ เป็นการเพิ่มกลุ่มลูกค้าที่กำลังสนใจกับสินค้าและบริการของคุณ ให้ตรงเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
  • คอยทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าและบริการแก่ลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องรอร้านเปิดให้บริการ

      สำหรับคนที่อยากมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เมื่อได้ทราบข้อควรรู้เบื้องต้นไปแล้ว คงพอจะมองเห็นภาพรวมคร่าวๆ ถึงความสำคัญของการมีเว็บไซต์ Mining Garden เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้นำในการออกแบบเว็บไซต์มาอย่างยาวนาน เพื่อที่จะได้เว็บไซต์ที่มีรูปแบบการทำงานที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจที่สุด และเพื่อให้ได้เว็บไซต์ออกมาสมบูรณ์ ใช้งานได้จริง